ทำไมถึงขาย Amazon ไม่ได้ โปรดอ่านที่นี่

ทำไมถึงขาย Amazon ไม่ได้ อืม…นี่ อาจเป็นคำถามที่หลายๆ คนนั้นกำลังถามตัวเอง และก็ถามผู้รู้ต่างๆ รวมไปถึงพยายามค้นหาข้อมูลว่า เพราะเหตุใดกันเล่า เราจึงยังขายสินค้าใน Amazon ไม่ได้สักที โจทน์นี้เป็นการถามที่หาคำตอบได้ยากที่สุด สำหรับหลายๆ คน เหตุผลก็เพราะว่าผู้ทีจะตอบนั้นไม่รู้ว่าผู้ที่ถาม ทำอะไรไปบ้างและทำแบบไหน ปัญหาที่ตามมาอย่างชัดเจนเห็นจะเป็นการเลือกสินค้าที่จะนำมาขายด้วย เพราะสินค้าคือองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้ขายได้หรือไม่ได้ ถ้าเลือกกลุ่มที่มีการแข่งขันที่รุนแรง แน่นอนครับว่าอาจขายได้ยากอย่างแน่นอน.


สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ทุกท่านครับ ได้มาพบกันอีกครั้งเมื่อผมได้ว่างจากงานสักเล็กน้อย ยังไงก็อย่าพึ่งเบื่อนะครับ เพราะช่วงนี้ผมต้องทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อรอรับปลายปีนั่นเอง แม้บางอย่างที่ผมทำตอนนี้จะยังให้ผลที่ไม่คุ้มค่านัก แต่ก็เห็นผลงานบางอย่างออกมามากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านั้นก็ยังอยู่ในช่วงของการทดสอบอยู่นั่นเอง แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีครับเมื่อเราได้ทดสอบ และทดลองทำงานในหลากหลายมิติ ทำให้เราพบกับปัญหาใหม่ๆ ที่ควรจะปรับปรุงแก้ไข และระวังให้ดีที่สุด


การขายสินค้า Amazon ไม่ได้นั้นถือเป็นเรื่องปกติ สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าที่ไม่ได้สังเกตุ หรือมองผ่านสิ่งที่ควรทำไป เหตุผลก็เพราะว่า การจะขายสินค้าได้นั้นจะต้องสามารถทำให้บล็อกการตลาดของเรา หรือบล็อกขายของนั้นๆ ติดอันดับด้วย หากไม่ติดอันดับก็คงเป็นไปได้ยากที่จะขายสินค้าได้ หรือถ้าติดก็ต้องดูด้วยครับว่าติดด้วยคำค้นหาอะไร และ ถ้าเป็นคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวกันกับสินค้าเรา สิ่งนี้ก็ไม่สามารถทำให้เราขายได้อย่างแน่นอน ข้อสำคัญที่สุด การวางลิงค์ เราได้มีการตรวจสอบการวางลิงค์ต่างๆ ดีหรือไม่หรือมีการวางอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะผมเคยเจอบางเว็บ หรือบางบล็อกที่ไม่ได้ทำลิงค์ด้วย Tracking ของตนเอง แต่ยิงลิงค์ไปให้ amazon เฉยๆ สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้คุณได้ยอดขายแน่นอนครับ เพราะถ้าหน้านั้นๆ ติดอันดับอยู่แล้วละก็ คุณไม่ได้ขายของให้ตนเอง แต่ขายให้ Amazon แบบฟรีๆ


การใช้งานเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อน เป็นสิ่งที่ดีเพราะช่วยทุ่นแรงเราไปได้มาก แต่เราก็ควรจะให้ความสำคัญกับเครื่องมือเหล่านั้นด้วย เช่นควรมีการตรวจสอบภาพ ลิงค์และก็ควรจะมีการตรวจแก้ข้อมูลบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เครื่องมือทำงานเองไปโดยที่เราไม่เคยสนใจใยดีเลย สิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้เราเสียเวลาเปล่าได้เช่นกัน การเลือกใช้เครื่องมือสนับสนุนนั้น เราสามารถเลือกได้หลากหลาย เพราะในปัจจุบันก็มีคนพัฒนามาให้ใช้กันมากมาย มีทั้งที่ให้ฟรี และก็เสียเงินค้าบริการ ตรงส่วนนี้ถ้าจะให้ผมแนะนำแล้วละก็ ผมมองว่าควรเลือกใช้ของฟรีก่อน เพราะเราไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วถ้าเห็นว่าของที่เสียเงินมีความสามารถสูงกว่าค่อยเสียเงินซื้อไป กรณีนี้เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผมเอง ใช้บริการของต่างชาติ เกี่ยวกับการซื้อเครื่องมือมาใช้ ซึ่งเขาไม่ได้มีให้ใช้ฟรี แต่ต้องซื้อเท่านั้น ผมเองก็ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันจะดีอย่างไรก็เลยจ่ายเงินซื้อไปด้วยราคา $79 แต่ด้วยเหตุที่เครื่องมือนี้ดีกว่าที่คิด คือผมลองเอามาทดสอบได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นพี่ใหญ่อย่าง Google ออกมา Deindex เว็บผมซึ่งทำ PR4 เอาไว้แล้วในแค่ข้ามคืน จนเหลือ Index 0 ทำให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก พยายามขอเงินคืนและไม่ใช้ ผลปรากฏว่าเจ้าของสคริปดังกล่าว ไม่รับผิดชอบโดยอ้างว่าเราได้ซื้อของเขามาแล้ว และเขาเองก็ไม่ได้บอกว่าซื้อแล้วจะขอเงินคืนได้


ทั้งๆ ที่หน้าเว็บของเขาบอกคืนเงินได้ภายใน 30 วันก็ทำให้ผมต้องมานั่งโต้เถียงเขาอยู่เป็นสัปดาห์ และผมก็เลยทิ้งเงินก้อนนั้นไปโดยไร้ประโยชน์ พร้อมกับเสียเว็บที่เคยทำเงินมาให้เดือนละตั้ง $300 – $500 ต่อเดือนจากการที่โพสด้วยมือ ซึ่งก็เสียดายมาก แต่ก็เป็นบทเรียนให้เราได้เรียนรู้ว่า บางครั้งเครื่องมือที่เขาเขียนข้อมูลอย่างสวยหรูก็ไม่อาจทำให้เราประสบ ความ สำเร็จได้ แต่สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จที่แท้จริง คือตัวเราและความขยันหมั่นเพียรของเรานั่นเอง


การใช้ Community อย่างฟุ่มเฟือยก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดยอดขาย หากการใช้งานนั้นไม่ถูกต้อง หรือทำผิดประเภท เราควรจะดูให้ดีและใช้อย่างระมัดระวังมากที่สุด เพราะถ้าผิดพลาด เราเสียไปตลอดกาล เช่น Twitter และ Facebook เพราะเครือข่ายเหล่านี้ล้วนแต่มีผู้คนมากมายที่อาจ เป็นได้ทั้งลูกค้าและผู้แข่งขัน ฉนั้นเราไม่สามารถกลั่นกรองผู้คนได้ เราควรจะนำเสนอข่าวที่เป็นบวกกับเราให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เกิด ชุมชนในการรับข้อมูลข่าวสาร ข้อสำคัญก็คือ ต้องรู้จักใช้ให้ถูกต้อง การได้มีโอกาสโพสขายสินค้าใน Twitter ด้วยเครื่องมือสนับสนุนต่างๆ เช่นของ Amazon เองก็ตามทีไม่ได้ช่วยให้คุณขายสินค้าได้ แต่คุณจะได้คลิกมหาศาล ซึ่งกรณีนี้ผมเองก็เคยเจอมาแล้ว จำนวนคลิกวันละ 3,000 – 7,000 คลิกต่อวัน (แบบว่าขยันมาก Twitt มันทั้งวันเลย…. ฮะๆๆๆๆ) ยอดขายที่ได้รับคือ 0 ย้ำว่า 0 ครับทำมา 3 เดือนก็ยังคงอยู่ที่ 0 ไม่ไปไหนเลยแต่กับบล็อกการตลาดที่ผมทำ และร้านค้าอย่าง aStore นั้นถ้ามีคลิกเข้ามา 3-10 คนต้องมียอดขายอย่างแน่นอน


นี่คือ ความต่างของการขายสินค้า ผมได้เคยประเมินคร่าวๆ ครับว่าระหว่าง เครือข่ายที่หลายคนพูดกันว่าช่วยขายสินค้าได้ ทำให้เราทำ SEO ดีที่สุด (ถ้าหมายถึงการทำ SEO เพื่อให้คนเข้าเยอะๆ น๊ะ) กับบล็อกการตลาดที่ผมสร้างด้วยใจ โพสด้วยมือ และก็อาจใช้เครื่องมือช่วยเล็กๆ น้อยๆ นั้นความต่างที่ประเมินได้ คือโพสด้วยมือจำนวน 100 โพสในแบบของผม ซึ่งต้องมีการปรับแต่งบางส่วน หรือเพิ่มเนื้อหาบางส่วนเข้าไป ใช้เวลาในการรอการติดอันดับคือ 24 ชั่วโมง ถ้ามีคนค้นหาและคลิกเข้าไปยังหน้าสินค้า 3-6 คนจะได้ยอดขาย 1-3 ออเดอร์อย่างแน่นอน ถ้าประเมินจากบล็อกที่ขายของ คือถ้าคนเข้าด้วยคีย์เดิมๆ ประมาณ 5-10 คนจะมีคนคลิกเข้าไป 3-6 คนแน่นอน ถ้าคำค้นหานั้นดีจริงๆ และจะได้ยอดขายแน่ๆ อยู่แล้ว แต่กับ Twitter นั้นคนคลิกไปเป็นพันๆ ยังไม่เกิดยอดขายเลย


แต่ใช่ว่าจะไม่มี ทางทำให้เกิดยอดขายได้ หากสินค้านั้นไม่ใช่ Amazon (อืม… อันนี้เรื่องจริงแท้แน่นอนเลยละ) สินค้าที่จะทำกับตลาดในลักษณะนี้จะต้องไม่ใช่ Amazon หรือถ้าใช่ก็คงต้องเป็นหมวดที่ จะทำให้เกิดยอดขายจริงๆ ซึ่งก็มีเสียด้วยซิ ส่วนจะเป็นหมวดไหนเดี๋ยวผมจะหาคำตอบมาให้ในครั้งหน้าก็แล้วกันนะครับ สำหรับการขายสินค้าแบบอื่นที่ไม่ใช่ Amazon นั้นผมได้ทดสอบโดยใช้ระยะเวลา 2 วันเท่านั้นโดยวัดผลทุกๆ วันผลปรากฏว่า “สามารถทำเงินได้” ตรงนี้ละคำสิ่งที่เป็นคำตอบของผม ผมสามารถขายสินค้านั้นได้โดย ทวิตข้อมูลไปเพียงแค่ 7 ครั้งเท่านั้นเอง และก็ขายได้ 2 ออเดอร์ ที่ได้ค่าคอมสูงถึง $140 ทีเดียว (เหอๆๆๆ งานนี้มีลุยกันยกใหญ่) โดยมีวิธีการในการทำงานที่ ค่อนข้างจะแตกต่างจากที่หลายๆ ท่านได้รู้มาเป็นอย่างมาก เพราะอันนี้ผมเองก็มั่วๆ ไปเรื่อยๆ แล้วก็พบกับทางสว่างเล็กๆ นี้เข้าจนได้ ครับนี่ก็เป็นการทดสอบของผมในช่วงที่หายๆ ไปหลายๆ วันเพราะต้องค้นหาข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมนั่นเอง


ย้อนกลับมา ที่ Amazon อีกครั้ง กับสาเหตุที่ขายสินค้าไม่ได้สักที เหตุผลก็เพราะว่าเราเลือกสินค้าได้ไม่เหมาะสมกับเรา และเรายังไม่เข้าใจสินค้านั้นๆ พอ ผมเจอหลายๆ คนพอเริ่มก็ลุยที่ Electronic เลยซึ่งเขาจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว หรือบางคนก็เข้าหมวดอื่นๆ แต่ว่าไม่เข้าใจสินค้านั้นๆ ทำให้ไม่รู้ว่าจะกำหนด Keywords อย่างไรหรือจะใช้คำค้นหาแบบไหน ตรงส่วนนี้คือประเด็นสำคัญ ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ผมแนะนำว่าให้ไปทำสินค้าที่คุณเข้าใจมากที่สุด และถ้าแข่งขันกันมากก็ย้ายไปอันดับรองลงมา รองลงมาเรื่อยๆ จนกว่าเราจะหาไม่ได้จริงๆ ค่อยหาทางอื่นต่อไป ข้อสำคัญที่สุด SEO คือหัวใจหลักของการทำงานของเรา เว็บเราจะต้องได้รับการ Index อย่างดีและต่อเนื่อง ควรใช้เวลาบางส่วนค้นหาและสร้าง Back Link เข้ามายังบล็อกที่เราขายของบ้าง หรือสร้างเครือข่ายของเราให้มั่นคงที่สุด ที่สำคัญที่สุดให้ศึกษาและพัฒนา การทำงานในทุกๆ สัปดาห์ ถ้ามีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ให้รีบแก้ไข รวมไปถึงตรวจสอบความถูกต้องทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ ช้าไม่เป็นไรครับ ขอให้ชัวร์เอาไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องรีบ ทำให้ดีที่สุด แล้วผลที่ตามมาจะช่วยให้คุณทำเงินได้ดีขึ้น และขายของได้เร็วขึ้น
ใช้ เครื่องมืออย่าง aStore ให้เกิดประโยชน์สำหรับสินค้าที่จะทำเงินให้เรา ควรมีการโปรโมทร้านเหล่านี้บ้าง ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่จะขายเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณทำจนครบองค์ประกอบโดยรวมเหล่านี้แล้ว ยอดขายก็จะเกิดผลในเร็ววันอย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วนั่นแล
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข และมียอดขายอย่างมากมาย รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กันทุกคนครับ จากใจ *_^


ที่มา http://www.makemany.com